วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

15 วิธีขอให้ชีวิตมีบารอกัตมากๆ

      มุสลิมผู้ที่หัวใจเต็มเปี่ยมด้วยอีมานหรือความศรัทธาที่มั่นคงไม่คลอนแคลน เขาจะมุ่งมั่นในการขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์แต่เพียงองค์เดียว ให้มีชีวิตเหนือกว่าความโลภ ความอยากได้อยากมีจนเกินพอดี และจะดีกว่าหากจะขอให้ชีวิตของเขานั้นมีบารอกัตกับทุกริซกีที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้มา 

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ บารอกัต กันก่อน

บารอกัต คือความจำเริญ การเพิ่มพูนและงอกเงย ซึ่งบารอกัตจะมีมากในกิจการงานอันเกี่ยวกับการเชื่อฟัง (ฏออะฮ.) ด้วยหัวใจที่เกรงกลัว (เต็มเปี่ยมด้วยตักวา) และประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างเคร่งครัด

หากเราพิจารณาไตร่ตรองสภาพความเป็นอยู่ของคนซอและฮ์ นักวิชาการผู้มีคุณธรรมเปี่ยมไปด้วยอัลอิหซานและมีจริยวัตรที่ดีงามหรือนักการศาสนา (อุละมาอ.) ที่เป็นแบบอย่างที่ดี ผู้ใฝ่หาความรู้และปฏิบัตอามัลอิบาดะฮ์อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะเห็นร่องรอบแห่งบารอกัตปรากฎเป็นร่องรอยแห่งวิถีชีวิตของพวกเขานั้นได้เป็นอย่างดี ชีวิตที่มีบารอกัตสามารถยกตัวอย่างให้เห็นได้โดยง่ายจาก บางคนเป็นผู้มีความรู้น้อนิด ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขตามอัตภาพอย่างเรียบง่าย หากแต่เขายินดีที่จะเสียสละความสุขและเวลาของตนเองและครอบครัว เพื่อช่วยเหลืองานสังคมตามโอกาสจะอำนวยหรือตามที่สังคมต้องการ เช่นนี้จึงสามารถเรียกได้ว่า ชีวิตที่มีบารอกัต อีกทางตรงข้าม บางคนผู้มีความรู้มากมาย แต่สังคมไม่ได้รับประโยชน์จากความรู้ของเขาเลย เช่นนี้สามารถเรียกได้ว่า ชีวิตไม่มีบารอกัตสักเท่าไรนัก

ด้วยเช่นนี้ อัลลอฮ์ทรงเมตตาให้มีบารอกัตอยู่ในหลายๆสิ่ง หลายๆอย่างในการดำรงชีวิตของมุสลิม เพื่อให้ได้เลือกสรรบารอกัตที่สามารถให้เหมาะแก่การดำรงชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขสันติโดยแท้จริง บารอกัตสามารถอยู่ในหลากหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน คู่ครอง ความรู้ การเผยแผ่และเชิญชวนอิสลาม ยานพาหนะ บ้านพักอาศัย สติปัญญา ร่างกาย ญาติมิตรเพื่อนฝูง และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเช่นนั้นการที่มุสลิมขอให้ชีวิตของเขามีบารอกัตจึงเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ

อัลลอฮ์จะทรงประทานบารอกัตให้เกิดขึ้นเมื่อเราประพฤติตนดังนี้

1.    มีความยำเกรง (ตักวา) ต่ออัลลอฮ์ อันเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำชีวิตไปสู่ความมีบารอกัต ด้วยพระองค์ทรงตรัสไว้ว่า
قال الله تعالى (ولو أن اهل القرى امنوا واتقوا لفتحنا عليهم بركات من السماء والارض)    
ความว่า และถ้าหากว่าชาวเมืองเชื่อมั่นศรัทธาและเกรงกลัวอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็จะทรงเปิดประตูแห่งความดี (บารอกัต) ให้ทุกๆด้านจากชั้นฟ้าและแผ่นดินซูเราะฮ์อัลอะอ.รอฟ : อายะฮ.96

มีคนๆหนึ่งบ่นกับคนซอและฮ์ว่า ข้าวของเครื่องใช้แพงเหลือเกิน
คนซอและฮ์จึงกล่าวกับเขาว่า การยำเกรงต่ออัลลอฮ์จะทำให้ข้าวของถูกลง

2.    การอ่านกุรอาน เนื่องด้วยอัลกุรอานเป็นกะลามุลลอฮ์ (คำดำรัสของอัลลอฮ์) เป็นคำสั่งสอนของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งประกอบไปด้วยคำสั่งใช้และคำสั่งห้าม จึงเป็นคัมภีร์ที่มีบารอกัตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้งเป็นยาของผู้ที่ป่วยทั้งทางกายและทางใจ นอกจากการอ่านอัลกุรอานเป็นประจำในทุกๆการละหมาดแล้ว เราควรอ่านอัลกุรอานพร้อมกับศึกษาความหมายไปพร้อมๆกันเป็นประจำด้วยเช่นกัน ดังที่อัลลอฮ์ทรงตรัสไว้ว่า
قال الله تعالى (كتاب انزلناه اليك مبارك ليدبروا اياته وليتذكر اولوا الالباب)
ความว่า: คัมภีร์ที่เราประทานลงมาให้เจ้านั้น โอ้ มุฮัมมัด เป็นคัมภีร์ที่มีบารอกัต เพื่อพวกเขาจะได้พิจารณาความหมายของอายะฮ์และคนที่มีปัญญาจะได้คิดถึงหลักคำสอนซูเราะฮ์ศอด 38: อายะฮ์ 29

 

3.    การยกมือขอดุอาอ์ให้มากๆ ท่านนบีมุฮัมมัดได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างแก่เรา อาทิ ท่านขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ ขอให้มีบารอกัตในเรื่องต่างๆ มากมาย เช่น ขอให้คู่บ่าวสาวมีบารอกัต โดยท่านกล่าวว่า
(بارك الله لك وبارك عليك وجمع بينكما فى خير) رواه الترمذى                                      
ความว่า ขออัลลอฮ์ทรงประทานความจำเริญ ขอให้มีบารอกัตแด่ท่านและขออัลลอฮ์ทรงรวมท่านทั้งสองให้ชีวิตคู่อยู่ในความดีงาม บันทึกโดย ติรมิซีย์
 
อีกดุอาอ์หนึ่ง ท่านนบีมุฮัมมัดขอดุอาอ์ให้ผู้ที่เลี้ยงอาหารแก่ท่านให้มีบารอกัต มีความจำเริญและได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์
(اللهم بارك لهم فيما رزقتهم واغفر لهم وارحمهم)رواه الترمذى
ความว่า โอ้ อัลลอฮ์ สิ่งใดที่ท่านให้ริซกีแก่พวกเขา ขอให้สิ่งนั้นมีบารอกัต (ความจำเริญ) และโปรดอภัยโทษและเอ็นดูเมตตาพวกเขาด้วยเถิด

4.    เมื่อมีทรัพย์อย่าตระหนี่ถี่เหนี่ยว เมื่อใดก็ตามที่เราทำมาหากินหรือได้รับริซกีเป็นเงินทองทรัพย์สินมาแล้ว ก็อย่าทำตนเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ควรใช้จ่ายทรัพย์และแบ่งปันทำศอดาเกาะฮ์ บริจาคทานตามกำลังความสามารถ ท่านนบีกล่าวกับท่านฮะกีม อิบนิ ฮะชามว่า
(يا حكيم ان هذا المال خضر حلو فمن اخذه بسخاوة نفس بورك له فيه ومن اخذه باشراف نفس لم يبارك له فيه وكان كالذى يأكل ولايشبع) رواه مسلم
ความว่า โอ้ ฮะกีม ทรัพย์สินนั้นเขียวขจีหวานฉ่ำ ใครมีไว้และมีใจโอบอ้อมอารีแก่ผู้อื่น จะทำให้ทรัพ์และผู้เป็นเจ้าของมีบารอกัต แต่ถ้าผู้ใดมีทรัพย์ไว้ เพื่อทำตัวเด่นเหนือกว่าคนอื่น ทรัพย์นั้นและเจ้าของก็จะไม่มีบารอกัต เหมือนคนที่กินไม่รู้จักอิ่มบันทึกโดย มุสลิม

5.    เมื่อทำธุรกิจซื้อขาย ต้องตรงไปตรงมาและมีสัจจะ ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นแบบอย่างมาจากท่านนบีมุฮัมมัด ในการทำมาค้าขายตามแบบฉบับของอิสลาม ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้มุสลิมทำมาค้าขายกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีบารอกัตมากยิ่งขึ้น ดังที่ท่ากล่าวไว้ว่า
(البيعان بالخيار مالم يتفرقا او قال حتى يتفرقا فان صدقا وبينا بورك لهما فى بيعهما وان كتما وكذبا محقت بركة بيعهما) رواه البخارى
ความว่า ผู้ชื้อและผู้ขาย จะต้องให้มีการเลือกสินค้ากันได้ ตราบใดที่ยังไม่ตกลงกัน ยังไม่แยกกันไป ถ้าหากทั้งสองมีสัจจะและนำเสนออย่างเปิดเผย การซื้อขายของทั้งสองก็จะมีบารอกัต แต่ถ้าหากทั้งปกปิดและกล่าวเท็จ การซื้อขายของทั้งสองนั้นก็จะถูกลบบารอกัตบันทึกโดย บุคอรีย์

6.    เมื่อจะทำงานอะไร ให้ทำในเวลาเช้าๆ ขอให้เรายึดถือและนำไปปฏิบัติตามดุอาอ์ของท่านนบีที่ท่านขอไว้
عن صخر الغامدى رضى الله عنه عن النبى صلى الله عليه وسلم انه قال:(اللهم بارك لامتى فى بكورها) رواه احمد
ความว่า โอ้ อัลลอฮ์ โปรดประทานบารอกัตให้อุมัตของฉัน ในเวลายามเช้าด้วยเถิดบันทึกโดย อิมามอะฮ์มัด
ท่ารอซูลเมื่อท่านจะส่งกองกำลังออกไปปฏิบัตภารกิจ ท่านเลือกเวลาตอนเช้า และท่าศ็อค.รินผู้เป็นพ่อค้า ท่านมักจะส่งสินค้าออกไปขายในยามเช้าๆ จนกระทั่งทำให้กิจการของท่านมีความเจริก้าวหน้า มีกำไรงาม
 
7.    ปฏิบัติตนตามซุนนะฮ์ของท่านนบี โดยมีตัวอย่างหนึ่งจากการปฏิบัติตนตามแบบฉบับของท่านรอซูล โดยมีรายงานจากท่านญาบิร.อิบนิ อับดิลลาฮ. กล่าวว่า
امر رسول الله صلى الله عليه وسلم بلعق الاصابع والصفحة وقال: (انكم لا تدرون فى اى طعامكم البركة) رواه مسلم
ท่านรอซูลใช้ให้เลียนิ้วมือ (เก็บกินอาหารที่ติดนิ้ว) และจานที่ใส่อาหาร โดยท่านกล่าวว่า พวกท่านไม่รู้หรอกว่า ในส่วนใดของอาหารมีบารอกัตอยู่บันทึกโดย มุสลิม (ดังนั้น ต้องรับประทานใหเกลี้ยง)

8.    ต้องมอบหมายความสำเร็จในการงานแด่อัลลอฮ์ เมื่อเราจะกระทำการใดๆก็ตาม จะต้องมอบหมายความสำเร็จต่ออัลลอฮ์ ดังที่ท่านนบีกล่าวว่า
(لو انكم توكلتم على الله حق توكله لرزقكم كما يرزق الطير تعدوا خماصا وتعود بطانا) رواه احمد
ความว่า: ถ้าหากพวกท่านมอบหมายแด่อัลลอฮ์อย่างแท้จริง อัลลอฮ์จะประทานริซกีให้เหมือนกับนก ในยามเช้าออกโบยบินให้สภาพท้องหิว ยามเย็นกลับรวงรังในสภาพท้องอิ่มบันทึกโดย อะฮ.มัด

9.    ขออิสติคอเราะฮ์ ให้ได้รับการคัดเลือกการงานที่ดีจากอัลลอฮ์ เมื่อเรากำลังตัดสินใจที่จะเริ่มทำงานใดงานหนึ่ง ให้มีการขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกการงานที่ดี เพราะสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงเลือกให้นั้นย่อมดีกว่าสิ่งที่เราเลือกเอง ทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮ์ ท่านนบีได้สอนเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยท่านกล่าวว่า เมื่อคนหนึ่งคนใดคิดจะทำกิจการงานหนึ่งงานใดก็ตาม ให้เขาละหมาดซุนนะฮ์ 2 ร็อกอะฮ์ เสร็จแล้วให้กล่าวดุอาอ์ว่า
(اللهم انى استخيرك بعلمك واستقدرك بقدرتك واسألك من فضلك العظيم فانك تقدر ولا اقدر وتعلم ولا اعلم وانت علام الغيوب اللهم ان كنت تعلم ان هذا الامر خير لى فى دينى ومعاشى وعاقبة امرى او قال عاجل امرى واجله فاقدره لى وان كنت تعلم ان هذا الامر شر لى فى دينى ودنياى وعاقبة امرى او قال عاجل امرى واجله فاصرفه عنى واصرفنى عنه واقدرلى الخير حيث كان ثم ارضنى به)
ความว่า โอ้อัลลอฮ์ ฉันขอต่อพระองค์ช่วยคัดเลือกการงานนี้ อันเนื่องด้วยความรอบรู้ของพระองค์ ฉันขอให้มีความสามารถ อันเนื่องด้วยความสามารถของพระองค์ และฉันขอต่อพระองค์ให้ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวงของพระองค์ แท้จริง พระองค์ทรงกำหนด ด้วยฉันไม่มีความสามารถในการกำหนดใดๆ พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่ง ในสิ่งที่ฉันไม่รู้และพระองค์ทรงรอบรู้ยิ่งถึงสิ่งเร้นลับ
โอ้อัลลอฮ์ เมื่อพระองค์ทรงรู้ว่า การงานนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับฉัน ดีตาอศาสนาของฉันและดุนยาของฉัน อีกทั้งดีต่อการดำเนินชีวิตของฉัน และบั้นปลายชีวิตของฉัน ขอพระองค์ทรงโปรดกำหนดให้ฉันและให้เป็นเรื่องง่ายดายแก่ฉัน และทรงโปรดให้มีบารอกัตแก่ฉันในการงานนี้ด้วยเถิด
โอ้อัลลอฮ์ เมื่อพระองค์ทรงรู้ว่าการงานนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดีสำหรับฉัน ไม่ดีต่อศาสนาของฉัน และการดำเนินชีวิตของฉัน ตลอดจนบั้นปลายแห่งการงานของฉัน ขอพระองค์ทรงโปรดให้มันพ้นไปจากฉันด้วยเถิด และขอพระองค์ทรงโปรดทรงกำหนดให้ฉันได้รับความดี ถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นและขอพระองค์ทรงยินดีทรงพึงพอใจต่อฉันในเรื่องนี้ด้วยเถิด

10.                       ไม่ขออะไร จากผู้คนที่ทำมาหากินด้วยน้ำพักน้ำแรง อิสลามส่งเสริมและสนับสนุนให้มุสลิมที่มีความรู้ความสามารถ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ทำมาหากินประกอบสัมมาอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ในทางตรงกันข้ามก็ไม่สนับสนุนให้ผู้หนึ่งผู้ใด ขอทรัพย์สินเงินทองจากผู้อื่น ตามนัยยะนี้ก็คือ อิสลามไม่ส่งเสริมให้มุสลิมเป็นมือล่างของใคร ตราบเท่าที่บุคคลนั้นยังคงมีความสามารถและคุณสมบัติดังกล่าวอยู่

11.                       ให้จับจ่ายใช้สอยและทำศอดาเกาะฮ์ เช่นกัน เมื่อเราประกอบอาชีพทำมาหากินด้วย้ำพักน้ำแรงของตนเองแล้ว ก็สนับสนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยตามความเหมาะสม อีกทั้งส่งเสริมให้มีการบริจาคทาน (ทำศอดาเกาะฮ์) แก่ผู้ที่สมควรได้รับ มีหลักฐานจากฮะดิษกุดรซีย์ ตามที่อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
قال الله تعالى (يابن ادم انفق انفق عليك)
ความว่า โอ้ ลูกหลานอาดัม จงจับจ่าย และบริจาคเถิด แล้วอัลลอฮ์ก็จะบริจาคให้ท่าน

12.                       จงหลีกห่างจากทรัพย์สินที่เป็นของฮะรอมหลายๆรูปแบบ ด้วยการดำเนินชีวิตตามครรลองของอัลอิสลาม จะต้องทำมาหากินเพื่อให้ได้ทรัพ์สินเงินทองและสิ่งอุปโภคต่างๆ (อาหารและเครื่องดื่ม) ซึ่งเป็นที่อนุมัติ (ฮะลาล) ตามข้อบัญญัติของอัลอิสลาม และเช่นเดียวกันอิสลามก็สอนให้เราหลีกเลี่ยง ห่างไกลจากการแสวงหาสิ่งต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่ต้องห้าม (ฮะรอม) ตามข้อบัญญัติอิสลามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพราะหากเราจับจ่ายใช้สอยหรือบริโภคสิ่งที่ต้องห้าม (ฮะรอม)แล้ว ชีวิตเราก็จะไม่มีบารอกัต

13.                       ขอบคุณและสรรเสริญต่ออัลลอฮ์ ในเนียะอ.มัต ความโปรดปรานที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ เมื่อเราได้รับริซกีหรือความดีงามต่างๆ ตามที่เราประสงค์แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสนองคุณและสรรเสริญต่อผู้ให้ ซึ่งเมื่อผู้ใดประพฤติปฏิบัติได้เป็นเนืองนิตย์แล้วไซร้ ชีวิตของเขาก็จะมีแต่ความจำเริญดังที่อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า
قال الله تعالى (لئن شكرتم لازيدنكم)
ความว่า หาดพวกเจ้าขอบคุณ เราก็จะเพิ่มพูนให้พวกเจ้าอีกซุเราะฮ์อิบรอฮีม: อายะฮ. 7
 
14.                       รักษาละหมาดฟัรฎูวันละ 5เวลา อย่าให้ขาดตกบกพร่อง เสาหลักประการสำคัญของอัลอิสลาม รองจากการปฏิญาณตนว่าเป็นมุสลิมแล้ว ก็คือการดำรงไว้ซึ่งการละหมาดฟัรฎูวันละ 5 เวลา ซึ่งนับว่าเป็นศาสนาบัญญัติที่ถูกบังคับเหนือมุสลิมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เมื่อเข้าสูเกณฑ์บังคับที่จะต้องปฏิบัติศาสนากิจและมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์แล้ว เราจะต้องทำการละหมาดฟัรฎูให้ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด อย่าให้ขาดตกบกพร่อง จวบจนกระทั่งร่างกายของเราหมดสภาพหรือความสามารถที่จะปฏิบัตได้แล้ว ตามข้อกเว้นของศาสนา นอกจากนี้อิสลามยังส่งเริมและสนันสนุนให้เราปฏิบัติละหมาดซุนนะฮ์ต่างๆ เป็นประจำเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเราสามารถที่จะปฏิบัติละหมาดทั้งสองอย่างควบคู่กันไปได้แล้ว นอกจากว่าเราจะได้รับผลบุญต่างๆมากมายมหาศาลตามที่อัลลอฮ์ทรงให้สัญญาไว้ เราจะยังได้รับบารอกัตในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกดุนยานี้ทุกเมื่อเชื่อวันด้วย
 
15.                       การขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์เป็นประจำและสม่ำเสมอ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาทุกคน เมื่อเกิดมาและดำรงชีวิตอยู่ในดุนยานี้จนกระทั่งตายลง ย่อมกระทำความดีและกระทำความผิดพลาดมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป แต่สำหรับมุสลิมแล้ว หากรู้ตัวว่าเราได้กระทำผิดลงไป ไม่ว่าจะเป็นบาปเล็กหรือใหญ่ก็ตาม เราจะต้องขออภัยโทษและสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไปต่ออัลลอฮ์ แม้ในบางครั้งบางคราเราอาจไม่รู้ตัวด้วยว่าเราได้กระทำอะไรผิดลงไปบ้าง ดังนั้น อิสลามจึงสอนให้เราสำนึกผิดและขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์เป็นประจำสม่ำเสมอ โดยหวังในความเอ็นดูเมตตาจากพระองค์เท่านั้นที่จะให้อภัยโทษแก่เราได้ 
 
ถ้าหากเราปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 15ข้อดังกล่าวแล้ว อินชาอัลลอฮ์ เราก็จะได้รับบารอกัตอย่างมากมายในกิจการการงานต่างๆที่เรากำลังกระทำอยู่ อินชาอัลลอฮ์

เรียบเรียงโดย อาจารย์ยะห.ยา อับดุลกะรีม
สรุปและสานต่อโดย ซาฮาร์